ผู้สนับสนุน
ความใฝ่ฝันของใครหลาย ๆ ก็คือการมีอสังหาริมทรัพย์เป็นของตัวเอง ได้ปล่อยเช่าและได้เก็บค่าเช่าเป็นรายได้กินไปจนแก่เฒ่าอย่างที่บางคนเรียกกันว่าเสือนอนกิน เป็นที่ทราบกันดีว่าอสังหาริมทรัพย์ถือเป็นอีกหนึ่งในช่องทางการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝากธนาคารหรือแม้แต่การลงทุนอื่น ๆ ทำให้นักลงทุนเป็นจำนวนมากต่างก็หันมาให้ความสนใจ
อย่างไรก็ตามการซื้ออสังหาริมทรัพย์ปล่อยเช่าเพื่อให้ได้ผลตอบแทนเป็นที่น่าพอใจคุ้มค่ากับความเสี่ยงนั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยสำคัญหลายประการที่นักลงทุนควรต้องศึกษาให้ดีก่อนที่จะลงทุน วันนี้เรามีคำแนะนำสำหรับนักลงทุนที่สนใจแนวทางการลงทุนแบบนี้อยู่ ว่าเราควรรู้อะไรบ้างก่อนลงทุน
1. ทำเลต้องมาก่อน การลงทุนซื้ออสังหาริมทรัพย์เพื่อปล่อยเช่านั้น เรื่องของทำเลถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดที่นักลงทุนจะต้องคำนึงถึงเป็นอันดับแรก ๆ เพราะทำเลที่ดีจะเป็นการรับประกันได้ว่าเราจะหาผู้เช่าได้ง่ายกว่ามาก และแม้ว่าผู้เช่าเดิมจะเลิกเช่าก็หาผู้เช่ารายใหม่ได้ไม่ยาก ดังนั้นแม้ว่าเราอาจจะต้องเพิ่มเงินลงทุนเพื่อให้ได้ทำเลที่ดีกว่า เช่น ใกล้รถไฟฟ้า ใกล้ตลาดหรือศูนย์การค้า ก็เป็นสิ่งที่ควรทำเป็นอย่างยิ่ง
2. ค่าเช่าต้องมากกว่าเงินผ่อน การกำหนดค่าเช่าก็เป็นเรื่องสำคัญ หากว่าการลงทุนซื้ออสังหาริมทรัพย์นั้นเป็นการผ่อนกับธนาคาร การปล่อยเช่าควรจะต้องได้ค่าเช่ามากกว่าเงินที่เราต้องผ่อนรายเดือนเพื่อให้การลงทุนนี้อยู่ได้ด้วยตัวของมัน นอกจากนั้นนักลงทุนควรสำรวจค่าเช่าของอสังหาริมทรัพย์ในละแวกใกล้เคียงอยู่เสมอเพื่อจะได้เสนอราคาค่าเช่าที่ไม่แตกต่างกันมากนัก
3. ลงทุนเอง 40% กู้เพิ่ม 60% มีธนาคารที่เขาทำการวิจัยมาว่าการลงทุนซื้ออสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะคอนโดฯ นั้นหากว่ากู้ธนาคารเกินกว่า 60% มีโอกาสที่นักลงทุนจะขาดทุนได้ เพราะผลตอบแทนจากค่าเช่าไม่ครอบคลุมเงินผ่อน ดอกเบี้ย และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ดังนั้นการซื้ออสังหาริมทรัพย์เพื่อปล่อยเช่าให้ได้กำไรควรกู้ไม่เกิน 60% ส่วนอีก 40% ก็เป็นเงินดาวน์ที่เป็นเงินลงทุนของตัวเอง
4. ห้องว่างหมายถึงไม่มีรายได้ อย่าปล่อยให้ห้องว่างนาน เมื่อผู้เช่ารายเก่าแจ้งว่าจะมีการย้ายออกให้ใช้เวลาช่วงดังกล่าวในการหาผู้เช่ารายใหม่อย่างต่อเนื่องเพื่อไม่ให้เสียรายได้ โดยมากจะมีการระบุในสัญญาเช่าว่าถ้าจะมีการย้ายออกจะต้องแจ้งล่วงหน้า 1-2 เดือน มิเช่นนั้นผู้ให้เช่าจะสามารถยึดเงินค่าเช่าที่จ่ายมาล่วงหน้าได้มีตัวเลขระบุว่าโดยเฉลี่ยในหนึ่งปีเจ้าของคอนโดฯ จะปล่อยเช่าห้องได้เพียงแค่ประมาณ 8 เดือนเท่านั้น
5. ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง หากว่าอสังหาริมทรัพย์ที่เราซื้อเพื่อลงทุนนั้นไม่ใช่เป็นชิ้นแรก ก็จะเข้าข่ายเป็นบ้านหลังที่สองได้ ซึ่งตั้งแต่ปี พ.ศ. 2560 เป็นต้นไป จะต้องเสียภาษีตาม พ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างตามอัตราที่กำหนดไว้ ซึ่งนักลงทุนจะต้องไม่ลืมคิดเป็นต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจากการลงทุนนี้ด้วย
นอกจาก 5 ข้อควรรู้ก่อนลงทุนซื้ออสังหาริมทรัพย์ปล่อยเช่าตามที่ว่ามาข้างต้นแล้ว นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลและรายละเอียดอื่น ๆ เพิ่มเติม เช่น เรื่องของสัญญาเช่า ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น การบริหารจัดการผู้เช่า ฯลฯ เพื่อให้การลงทุนซื้ออสังหาริมทรัพย์ปล่อยเช่านั้นเป็นการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนเป็นรายได้ที่สม่ำเสมอให้กับนักลงทุนได้อย่างที่คาดหวังไว้
***ขอบคุณรูปภาพจาก pixabay.com
ผู้สนับสนุน