Trade on-the-go
เดอะ ฟอเรสเทียส์ ซิกเนเจอร์ ซีรีส์

ผู้สนับสนุน

banner image

5 ความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับการเทรด เปิดโปงความจริงในโลกการเงิน

ผู้สนับสนุน

banner image

ในโลกของการลงทุนและการเทรดที่มีความผันผวนสูง หลายคนมักมีความเข้าใจผิดๆ ที่อาจนำไปสู่การตัดสินใจที่ไม่ถูกต้อง และทำให้เกิดความเสียหายได้ ความเชื่อเหล่านี้มักถูกส่งต่อกันมา หรือเกิดจากความคาดหวังที่ไม่สมจริงเกี่ยวกับการทำกำไรอย่างรวดเร็วและง่ายดาย

เพื่อให้คุณเห็นภาพที่ถูกต้องและเตรียมพร้อมสำหรับการเดินทางในตลาดการเงินอย่างมีประสิทธิภาพ เราจะมาตรวจสอบ 5 ความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับการเทรด ที่พบบ่อยที่สุด พร้อมทั้งเปิดเผย ข้อเท็จจริง เพื่อหักล้างความเข้าใจผิดเหล่านั้น และให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์สำหรับการเทรดอย่างชาญฉลาด

เรามาดูกันว่าความเชื่อเหล่านั้นมีอะไรบ้าง และความจริงเบื้องหลังคืออะไร

1. "การเทรดคือการรวยเร็ว"

ความเชื่อที่ผิด ความคิดที่ว่าการเทรดเป็นเหมือนเกมที่คุณสามารถกดปุ่มไม่กี่ครั้งแล้วกลายเป็นเศรษฐีได้ในพริบตาเป็นสิ่งที่ฝังแน่นในใจของหลายคน โดยเฉพาะเมื่อเห็นโฆษณาชวนเชื่อที่อวดอ้างผลกำไรมหาศาลอย่างง่ายดาย สิ่งนี้ดึงดูดผู้ที่ต้องการทางลัดในการสร้างฐานะ และมักจะทำให้เกิดความคาดหวังที่ไม่สมจริง

ข้อเท็จจริง การเทรดที่ประสบความสำเร็จนั้นเป็น ทักษะ ที่ต้องใช้เวลาฝึกฝนและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง มันคล้ายกับการเรียนรู้เครื่องดนตรี เล่นกีฬา หรือสร้างธุรกิจ คุณต้องทุ่มเทเรียนรู้หลักการตลาด การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยทางเทคนิค ทำความเข้าใจจิตวิทยาการเทรด และที่สำคัญที่สุดคือการ บริหารจัดการความเสี่ยง ที่เหมาะสม ทุกการเทรดมีความเสี่ยง และการรวยเร็วจากการเทรดมักเป็นเพียง ข้อยกเว้น ไม่ใช่กฎทั่วไป ผู้เทรดมืออาชีพส่วนใหญ่ใช้เวลาหลายปีในการศึกษา ลองผิดลองถูก และค่อยๆ สร้างผลกำไรที่สม่ำเสมอ การตั้งเป้าหมายที่สมจริง เช่น การทำกำไรเล็กน้อยแต่สม่ำเสมอในระยะยาว จะเป็นแนวทางที่ยั่งยืนกว่า

2. "คุณต้องมีทุนเยอะถึงจะเริ่มเทรดได้"

ความเชื่อที่ผิด มีความคิดที่ว่าการเทรดต้องใช้เงินทุนจำนวนมากเท่านั้นถึงจะทำกำไรได้ ความเชื่อนี้ทำให้ผู้ที่มีทุนน้อย หมดกำลังใจที่จะก้าวเข้าสู่ตลาด หรือรู้สึกว่าตัวเองไม่มีโอกาส

ข้อเท็จจริง ในยุคปัจจุบัน การเข้าถึงตลาดการเงินทำได้ง่ายกว่าที่เคย มีโบรกเกอร์ออนไลน์จำนวนมากที่เสนอการเปิดบัญชีด้วยเงินทุนเริ่มต้นที่ต่ำมาก บางแห่งเริ่มต้นเพียงไม่กี่ร้อยบาทหรือหนึ่งพันบาทก็สามารถเริ่มเทรดได้แล้ว จุดสำคัญไม่ได้อยู่ที่จำนวนเงินทุนเริ่มต้น แต่อยู่ที่การ บริหารจัดการเงินทุน ของคุณต่างหาก การเริ่มต้นด้วยเงินจำนวนน้อยๆ และเรียนรู้ที่จะเทรดอย่างมีวินัย โดยใช้ขนาดคำสั่งที่เหมาะสมกับเงินทุนของคุณ จะช่วยให้คุณสั่งสมประสบการณ์โดยไม่เสี่ยงมากเกินไป นอกจากนี้ บัญชีทดลอง (Demo Account) เป็นเครื่องมือที่ยอดเยี่ยมที่คุณสามารถใช้ฝึกฝนกลยุทธ์ต่างๆ โดยไม่ต้องใช้เงินจริงเลยแม้แต่น้อย

3. "การเทรดคือการพนัน"

ความเชื่อที่ผิด ข้อกล่าวหานี้มักมาจากผู้ที่เคยประสบความล้มเหลวในการเทรด หรือผู้ที่มองเห็นแต่ความผันผวนของตลาดโดยไม่เข้าใจเบื้องลึกเบื้องหลัง การเทรดแบบไร้กลยุทธ์ ไร้การวิเคราะห์ และไร้การควบคุมอารมณ์นั้น แท้จริงแล้วก็ไม่ต่างจากการพนัน

ข้อเท็จจริง การเทรดที่ถูกต้องนั้นเป็น การวิเคราะห์ที่มีหลักการ และ การตัดสินใจอย่างมีเหตุผล ผู้เทรดมืออาชีพจะใช้ข้อมูลจำนวนมากในการตัดสินใจ ไม่ว่าจะเป็น:

  • การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน การศึกษาเศรษฐกิจของประเทศ นโยบายการเงินของธนาคารกลาง ผลประกอบการของบริษัท และข่าวสารต่างๆ ที่มีผลต่อราคา
  • การวิเคราะห์ปัจจัยทางเทคนิค การใช้กราฟ รูปแบบราคา และตัวชี้วัดทางสถิติต่างๆ เพื่อคาดการณ์แนวโน้มและความน่าจะเป็น
  • การบริหารจัดการความเสี่ยง การกำหนดจุดตัดขาดทุน (Stop Loss) เพื่อจำกัดการขาดทุน และการวางแผนขนาดการเทรดที่เหมาะสมกับเงินทุน
  • จิตวิทยาการเทรด การควบคุมอารมณ์ ความโลภ และความกลัว ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการตัดสินใจ

ทั้งหมดนี้คือกระบวนการที่มีแบบแผนและใช้เหตุผล ไม่ใช่การสุ่มเดาเหมือนการพนัน

4. "ระบบเทรดที่สมบูรณ์แบบจะรับประกันกำไร 100%"

ความเชื่อที่ผิด มีความเชื่อว่าจะมี "ระบบเทรด" หรือ "สัญญาณ" พิเศษที่สามารถให้ผลกำไรได้ตลอดเวลาโดยไม่มีการขาดทุนเลย และมักตกเป็นเหยื่อของการหลอกลวงที่อ้างว่ามีระบบดังกล่าว

ข้อเท็จจริง ไม่มีระบบเทรดใดในโลกที่สมบูรณ์แบบและสามารถรับประกันกำไรได้ 100% ตลาดการเงินมีความซับซ้อนและเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา สิ่งที่เคยใช้ได้ผลดีในอดีต อาจไม่สามารถใช้ได้ผลในอนาคต การขาดทุนเป็น ส่วนหนึ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ของการเทรด ไม่ว่าคุณจะเป็นเทรดเดอร์ที่เก่งกาจแค่ไหน สิ่งสำคัญคือการมีระบบเทรดที่ผ่านการทดสอบมาอย่างดี มี อัตราการชนะ (Win Rate) ที่เหมาะสม และที่สำคัญที่สุดคือการ บริหารจัดการความเสี่ยง ที่ช่วยให้เมื่อคุณขาดทุน คุณขาดทุนน้อย และเมื่อคุณได้กำไร คุณได้กำไรมากกว่า เพื่อให้ผลรวมสุทธิของคุณเป็นบวกในระยะยาว

5. "คุณต้องเฝ้าหน้าจอ 24 ชั่วโมงเพื่อทำกำไร"

ความเชื่อที่ผิด ภาพจำของเทรดเดอร์ที่ต้องนั่งจ้องหน้าจอมอนิเตอร์หลายๆ จอ ตลอดเวลา ทำให้หลายคนคิดว่าการเทรดเป็นอาชีพที่ต้องทุ่มเทเวลาทั้งหมด และไม่เหมาะกับผู้ที่มีภาระอื่น ๆ

ข้อเท็จจริง การเทรดมีหลายสไตล์ และไม่ใช่ทุกสไตล์ที่ต้องเฝ้าหน้าจออย่างใกล้ชิดตลอดเวลา

  • Day Trading (เดย์เทรด) สไตล์นี้ต้องใช้เวลาหน้าจอมาก เพราะเป็นการเข้าและออกคำสั่งซื้อขายภายในวันเดียวกัน โดยมีเป้าหมายทำกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคาเพียงเล็กน้อย
  • Swing Trading (สวิงเทรด) คุณจะถือสถานะเป็นระยะเวลาหลายวันถึงหลายสัปดาห์ เน้นการจับรอบการเหวี่ยงของราคา ไม่จำเป็นต้องเฝ้าหน้าจอทั้งวัน เพียงแค่ตรวจสอบตลาดเป็นระยะๆ
  • Position Trading (โพซิชั่นเทรด) เป็นการถือสถานะเป็นระยะเวลานานหลายสัปดาห์ หลายเดือน หรือแม้กระทั่งเป็นปี โดยอ้างอิงจากแนวโน้มใหญ่ของตลาด เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่มีเวลาเฝ้าหน้าจอเลย และเน้นการลงทุนระยะยาว

การวางแผนการเทรดที่ดี การตั้ง คำสั่งอัตโนมัติ เช่น Stop Loss (ตัดขาดทุน) และ Take Profit (ทำกำไร) ช่วยให้คุณบริหารจัดการการเทรดได้โดยไม่ต้องเฝ้าหน้าจออยู่ตลอดเวลา คุณสามารถเลือกสไตล์การเทรดที่เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์และเวลาที่คุณมีได้


ผู้สนับสนุน

banner image

แสดงความคิดเห็น

  • บทความล่าสุด
  •  มือใหม่ห้ามพลาด! ฝึกฝนทักษะเทรดไร้ความเสี่ยงด้วยบัญชีทดลองฟรี
    มือใหม่ห้ามพลาด! ฝึกฝนทักษะเทรดไร้ความเสี่ยงด้วยบัญชีทดลองฟรี  6
    Audio Overviews คืออะไร (ฉบับขยายความ)
    Audio Overviews คืออะไร (ฉบับขยายความ)  16
    เชียงใหม่ แหล่งรวม Digital Nomad ระดับโลก ทำไมคุณถึงควรมาใช้ชีวิตที่นี่?
    เชียงใหม่ แหล่งรวม Digital Nomad ระดับโลก ทำไมคุณถึงควรมาใช้ชีวิตที่นี่?  18
    แบงก์ชาติมองไทย 'หลังชนฝา' ภารกิจฟื้นเศรษฐกิจและปรับโครงสร้าง
    แบงก์ชาติมองไทย 'หลังชนฝา' ภารกิจฟื้นเศรษฐกิจและปรับโครงสร้าง  26
    ผู้ว่าฯ ธปท. ชี้ชัด ทำไม
    ผู้ว่าฯ ธปท. ชี้ชัด ทำไม "คริปโต" ยังไม่ใช่ "เงิน" และความสำคัญของธนาคารกลาง  24
  • อื่นๆ ที่น่าสนใจ