ผู้สนับสนุน
ทุกคนคงเคยได้ยิน ประโยคที่ว่า ไปเกาะเสม็ด เสร็จทุกราย ประโยคนี้เป็นวลีติดหู ทำให้อยากรู้ว่า ทำไม ถึงได้มีวลีนี้ออกมาได้ ดังนั้นต้องลองไปดูกับตาให้เห็น
ว่าแล้วก็เก็บกระเป๋าเดินทาง ไปเที่ยวตามรอยเกาะเสม็ดกันเลยดีกว่า ว่าแต่ว่าเกาะเสม็ดอยู่ที่ไหน เกาะเสม็ดตั้งอยู่ที่ ต.เพ อ.เมือง จ.ระยอง ซึ่งตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า หมู่เกาะเสม็ดซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของจังหวัดระยองเป็นอย่างมาก การเดินทางเราสามารถเดินทางได้ด้วยรถยนต์ส่วนตัว หรือรถบัส และไปลงที่ระยอง ในครั้งนี้เราไปกันหลายคนเราจึงไปด้วยรถบัสที่เช่าไป โดยเราเดินทางไปถึงโรงแรมที่เราได้จองไว้แล้วประมาณช่วงเกือบๆ เที่ยงๆ
โดยโรงแรมอยู่ติดริมทะเล เป็นโลเคชั่นที่ดีมาก บริเวณโรงแรมมีต้นมะพร้าว พัดลู่ไปตามลมทะเล ดูแล้วให้ความรู้สึกที่ดีมาก พร้อมไปด้วยมีโขดหิน สีน้ำตาลสีตัดกับน้ำทะเลสีฟ้า พร้อมกับต้นมะพร้าวและต้นหญ้าสีเขียว ช่างเป็นภาพที่เหมือนโดนมนต์สะกดเอาไว้ พร้อมด้วยกลิ่นไอของน้ำทะเล บอกได้คำเดียว ว่ามาเสม็ดต้องเสร็จทุกราย จริง ๆ 5555
เมื่อเราไปถึงเราก็เข้าไป check in กับทางโรงแรม หลังจากนั้นเราก็นั่งพักให้หายเหนื่อย และก็ลงมาหาอะไรทานช่วงบ่ายๆ พร้อมกับเดินเล่นและถ่ายรูป ซึ่งมุมถ่ายรูป บอกเลย แบตเตอรี่ที่ชาร์ตมาไม่พอ ต้องใช้แบตสำรอง กันเลยทีเดียว จากบริเวณหน้าโรงแรม จะมีสะพานไม้ ที่ทอดยาวไปในทะเล ซึ่งเป็นบริเวณที่เหมาะกับการถ่ายรูปเป็นอย่างมาก เพราะเคยเห็นฉากนี้ในสื่อต่างๆ มานานแล้ว ครั้งนี้ได้มาถ่ายของจริง รู้สึกดีใจมากๆ เพราะจะได้เอาไปลงโลกโซเชียลอวดเพื่อนได้แล้วซักทีคราวนี้ ให้เพื่อนๆ อิจฉาเล่น
ยิ่งตอนเย็นๆ การมาเดินถ่ายภาพ พร้อมกับนอนบนเตียงผ้าใบที่เขาเตรียมไว้ให้ เป็นอะไรที่เหมาะมาก เรามีเวลาถ่ายภาพกันจุใจเลยทีเดียวเลยแหละ เรียกว่า ถ้าภาพไหน ถ่ายแล้วไม่โดนใจ สามารถมาถ่ายซ่อมใหม่ได้แบบสบายๆ
เมื่อตกกลางคืนสักประมาณ 2 ทุ่มเราจะมีการเช่าเรือเพื่อไปตึกปลาหมึกกลางทะเล ถ้าใครกลัวเมาเรือ จะไม่ไป ก็สามารถนอนพักผ่อนในโรงแรม แต่ถ้าอยากลองหาประสบการณ์สักครั้งหนึ่งในชีวิตก็สามารถไปได้ ตอนกลางคืน เรือจะมารับตรงสุดทางเดินของสะพานที่ทอดยาวไปในทะเล เพื่อออกไปตกหมึก
เมื่อลงไปในเรือ มันก็โคลงเคลงไปมาอย่างมาก ถ้ากลัวเมาก็ให้หลับไป แล้วค่อยตื่นตอนเรือหยุดตกหมึกกลางทะเล ซึ่งเขาก็จะมีเหยื่อที่ใช้ตกหมึกอยู่ เมื่อตกขึ้นมาแล้วเขาก็เอาไปหั่นและกินกันสดๆ เลย ซึ่งหลายคนที่ไป เขาก็ลองกินกัน แต่ตัวดิฉันเองไม่ได้กิน เพราะปกติ ไม่กินของดิบๆ ที่ไม่ผ่านการปรุงอยู่แล้ว กลัวท้องไส้จะเสีย และกลัวอาหารเป็นพิษ ซึ่งวันนั้นหมึกก็ตกได้ไม่ดีเท่าไหร่ แต่สิ่งที่ได้ คือ ประสบการณ์ ที่เราสามารถไปเล่าต่อกับคนอื่นๆ ได้ว่า ครั้งหนึ่งเราเคยมีประสบการณ์ตกหมึกแล้วนะ
เมื่ออยู่กลางทะเลได้เกือบ 1 ชั่วโมงครึ่ง เรือก็แล่นกลับขึ้นฝั่ง เป็นอะไรที่ดีใจสุด ๆ เพราะไม่ต้องทนอยู่บนเรือโคลงเคลงอีกต่อไปแล้ว เมื่อกลับไปก็อาบน้ำนอน เพราะเช้า จะต้องตื่นแต่เช้า เพื่อไปอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า หมู่เกาะเสม็ด
เช้านี้ตื่นมาแต่เช้า พร้อมแล้วกับการออกเดินทาง ด้วยเรือสปีดโบ๊ทเพื่อไปยังเกาะเสม็ด แหละแล้วเมื่อเรือมาก็ลงเรือสปีดโบ๊ท ซึ่งตอนนั่งเรือก็ต้องจับให้แน่นพอสมควร เพราะว่าเรือต้านกับแรงของคลื่น ทำให้เรือ โยกไปโยกมาไม่นิ่ง เราใช้เวลาประมาณเกือบ 25 นาทีในการแล่นไปที่เกาะเสม็ด
เมื่อถึงสภาพตอนก่อนขึ้นเรือ กับหลังลงจากเรือช่างแตกต่างกัน สภาพก็จะเป็นแบบที่เห็น คือต้องถอดรองเท้า พร้อมด้วยถกขากางเกง เพราะเรือไม่สามารถเข้าส่งถึงฝั่งได้ เพราะติดท้องเรือ ต้องกระโดดลง พร้อมกับเปียก อย่างที่เห็น ดังนั้นถ้าใครจะมาครั้งหน้า แนะนำให้ใส่ขาสั้น กับรองเท้าแต๊ะมา ไม่งั้นคุณจะเปียก แต่ถ้าคุณไม่ซีเรียสว่าไม่กลัวเปียก คุณจะใส่อะไรมาก็ได้
ในที่สุดเราก็ได้มาสัมผัสกับเกาะเสม็ดแล้ว ซึ่งน้ำทะเลมีความสะอาด หาดทรายละเอียด น้ำทะเลสีฟ้าใส ยิ่งคุณถอดรองเท้าเดินบนหาดเท้า จะรู้สึกว่าเม็ดทรายนุ่มและละเอียดมาก เราก็ไม่พลาดที่จะเก็บภาพความประทับใจกับหาดทรายอันสวยงาม
เมื่อถ่ายรูปกันได้พอสมควรแล้ว เราก็พากันเดินขึ้นมาด้านบน เพื่อเดินมาบริเวณอุทยานแห่งชาติแหลมหญ้า และมาไหว้พระที่วัดเกาะเสม็ด และทำบุญกับทางวัด และไหว้พระขอพร ให้การเดินทางกลับด้วยความปลอดภัย
ไม่ว่าจะไปเที่ยวที่ไหนก็ตาม ถ้ามีวัดหรือมีสถานที่ที่สามารถให้ทำบุญได้ ดิฉันก็ไม่ลืมที่จะทำบุญ เพื่อเพิ่มสิริมงคลให้กับตัวเอง หลังจากนั้นก็ได้เดินไปอ่านประวัติอุทยานแห่งชาติแห่งนี้ พร้อมกับเดินกลับไปที่ชายหาด
จุดหมายปลายทางในการเดินทางกลับของพวกเราในครั้งนี้ คือหารหาร้านนั่งชิว เพื่อชมบรรยากาศเกาะเสม็ด แห่งนี้ แหละแล้วเราก็ไปเจอร้านกาแฟร้านหนึ่ง ที่ถูกแต่งด้วยสไตน์เก๋ๆ เราจึงตัดสินใจเข้าไปนั่ง และสั่งกาแฟมากินคนละ 1 แก้ว
นั่งกันอยู่ได้ไม่นาน ก็ต้องลุกไป เพราะเพื่อนที่มาด้วยกันอีกกลุ่มหนึ่งโทรมาตาม ว่าเขาตามไปกินอาหารที่ถูกสั่งไว้ที่ร้านอาหารริมทะเล ตรงจุดที่เราลงจากเรือสปีดโบ๊ท เมื่อไปก็ต้องตะลึงกับอาหาร โดยมีปูสดๆ กุ้งสดๆ พร้อมน้ำจิ้มซีฟู๊ดวางอยู่ตรงหน้าบนโต๊ะ วินาทีหลังจากนั่งลง แทบจะไม่มีเสียงพูดคุย เพราะต่างคน ต่างมีสมาธิกับการกิน เราได้เริ่มคุยกันอีกครั้ง ตอนทุกคนเริ่มจะอิ่มแล้ว และเมื่ออิ่ม ทุกคนก็พากันไปล้างไม้ล้างมือ เข้าห้องน้ำ เพื่อเตรียมนั่งเรือกลับไปโรงแรมอีกครั้ง
หลังจากถึงโรงแรม เราก็ต้องไปเปลี่ยนกางเกงกับลองเท้าใหม่ เพราะเปียกหมดเนื่องจากตอนกลับลงเรือ ก็ต้องลอยน้ำอีกรอบ พร้อมกันนั้นก็ check out ออกจากโรงแรมช่วงเที่ยง พร้อมกับเดินทางกลับกรุงเทพ
ทริปนี้ทำให้เราได้รู้แล้วว่า เกาะเสม็ดสวยอย่างคำร่ำลือ หรือไม่ และไปแล้วเสร็จทุกรายจริงหรือไม่ 5555 ถ้าคุณอยากรู้ต้องลองไปเอง มิเช่นนั้น คุณจะคุยกับเขาไม่รู้เรื่อง
ผู้สนับสนุน